การโจมตีซอฟต์แวร์ (Deliberate Software Attacks)
Malware หรือ มัลแวร์ ย่อมาจาก Malicious software หมายถึง ซอฟท์แวร์ที่เป็นอันตรายต่อคอมพิวเตอร์ ซึ่งมาจากการเขียนโปรแกรมที่ประกอบด้วย สคริปท์ โค้ด หรือคอนเท็นต์ ต่างๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อทำลายหรือขัดขวางการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ หรือนำไปสู่การสูญเสียความเป็นส่วนตัว (ถูกแฮ็กข้อมูล) หรือทำให้ไม่สามารถเข้าไปยังระบบต่างๆ ได้ รวมทั้งอาจทำให้เกิดลักษณะต่างๆ ที่ไม่พึงประสงค์ในคอมพิวเตอร์
Virus
ไวรัส (Virus) เป็นที่รู้จักกันดี ด้วยความสามารถในการแพร่กระจาย ไวรัสคอมพิวเตอร์ จะแฝงมากับโปรแกรม ซึ่งเมื่อทำการรัน โปรแกรมแล้วจะทำให้ไวรัสกระจายตัว ไปยังส่วนต่างๆ ของคอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ทำให้ซอฟท์แวร์ขัดข้อง ไปจนถึงทำลายฮาร์ดแวร์ได้อีกด้วย ทั้งนี้ไวรัสมีมานานแล้ว ตั้งแต่สมัยการใช้ floppy disk โดยไวรัสแพร่กระจายโดยใช้ floppy disk เป็นพาหะ เมื่อผู้ใช้งานใส่ดิสก์เข้าไป ก็สามารถจะติดไวรัสได้ทันทีเมื่อมีการรันโปรแกรมจากดิสก์ ในปัจจุบันที่เลิกใช้ดิสก์ไปแล้ว ก็สามารถติดไวรัสได้จากการใช้งานไฟล์ที่เชื่อมต่อจากพอร์ท USB
Worms
หนอน (Worm) เป็นโปรแกรมที่สามารถกระจายตัวไปยังเครือข่ายต่างๆ ได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเสียหายของซอฟท์แวร์ต่างๆ เหมือนอย่างไวรัส แต่หนอนคอมพิวเตอร์นี้จะน่ากลัวกว่า ตรงที่สามารถกระจายตัวไปยังคอมพิวเตอร์เองได้ โดยผ่านเครือข่าย ซึ่งจะมาในรูปแบบจดหมาย อีเมล หรือไฟล์ที่เมื่อผู้ใช้งานเปิดดู ก็จะติดทันที หนอนคอมพิวเตอร์สามารถแย่งการใช้เครือข่าย หรือทรัพยากรในระบบ รบกวนการทำงานของ server ซึ่งใช้งานกันทั่วไปในแต่ละองค์กร หนอนคอมพิวเตอร์ที่โด่งดังในอดีต ได้แก่ SQL Slammer ที่สามารถติดไปยังคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายนับพันเครื่อง ภายในเวลาไม่กี่นาที และในปัจจุบันหนอนก็ยังคงวนเวียน อยู่ในเครือข่ายการใช้งาน Social network ต่างๆ อีกด้วย
Trojan horses
มีชื่อมาจากม้าไม้ในสงครามเมืองทรอย ซึ่งเป็นการหลอกเชื้อเชิญให้นำม้าไม้เข้าไปในเมือง และเมื่อนำเข้าไปแล้วจึงเกิดการทำลายจากภายใน ซึ่งส่วนใหญ่ภัยจากโทรจันนี้จะมาในรูปแบบข้อความโน้มน้าว เชื้อเชิญให้เรากดเข้าไป จากนั้นจึงสร้างความเสียหายในระบบ หรือส่วนใหญ่นำข้อมูลที่มีอยู่ของเราออกไป หรือเฝ้าดูการใช้งานคอมพิวเตอร์ในระยะำไกล โดยที่เราไม่รู้ตัว
Back Door or Trap Door
Back door หรือ Trap door เป็นสิ่งที่โปรแกรมเมอร์ได้สร้างไว้และรู้กันเฉพาะกลุ่มสำหรับการเข้าไปแก้ไขระบบ ซึ่งเป็นช่องโหว่ให้แฮคเกอร์เข้ามาในระบบและมีสิทธิพิเศษในการแก้ไขสิ่งต่างๆตัวอย่าง ประเภทของ back door มี Sub seven และ Back Orifice
Polymorphism
Polymorphism เป็นไวรัสชนิดหนึ่งที่ได้รับการพัฒนาให้มีความยากในการตรวจจับ อาจจะใช้เวลาหลายวันในการสร้างโปรแกรมตรวจจับ เพื่อจัดการกับ polymorphism เพราะมันใช้เทคนิคการซ่อนลักษณะเฉพาะที่สำคัญ (signatures) ไม่ให้คงรูปเดิม เพื่อหลีกจากการตรวจจับของโปรแกรมแอนตี้ไวรัส
Virus and Worm Hoaxes
เป็นรูปแบบของการหลอกลวงผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทำให้เสียเงินเสียเวลาในการวิเคราะห์ โดยไวรัสหลอกลวงจะมาในรูปจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เตือนให้ระวังอันตรายจากไวรัส ด้วยการอ้างแหล่งข้อมูลเป็นรายงานที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ผู้รับส่งต่อจดหมายเตือนฉบับนั้นต่อๆไปอีกหลายๆทอด ซึ่งเป็นลักษณะของไวรัสหลอกลวง หากได้รับจดหมายประเภทนี้ไม่ควรที่จะส่งต่อ ควรเช็คจากแหล่งข้อมูลที่ถูกต้องก่อนทำการส่ง และควรจะอัพเดทโปรแกรมแอนตี้ไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
แหล่งข้อมูลทางอินเตอร์เน็ทในการวิจัยเกี่ยวกับไวรัสว่าจริงหรือหลอก สำหรับข้อมูลล่าสุดของภัยคุกคามทั้งไวรัส เวิร์ม และโฮแอ็กส์ สามารถเข้าไปได้ที่ CERT Coordination (www.cert.org) เป็นศูนย์รวมการรักษาความปลอดภัยข้อมูล
ที่มา : http://www.siamget.com/buyerguide/1208
http://beztilicious.blogspot.com/2010/02/2553.html